Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ราคาขายปลีกที่แนะนำ (รวม VAT)
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
34 มม., ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
34 มม., ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
34 มม., ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., ทอง Sedna™ บน สายหนัง
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
OMEGA ภาคภูมิใจในการเครื่องหมาย Swiss Made ที่ประทับบนนาฬิกาทุกเรือน ถ้อยคำเรียบง่ายนี้บ่งบอกถึงการรับประกันมาตรฐานคุณภาพที่สั่งสมมานานหลายศตวรรษ จวบจนเป็นสัญลักษณ์ด้านความเป็นเลิศที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เมื่อ Ladymatic ปรากฏขึ้นเป็นเผยโฉมครั้งแรกในปี 1955 นาฬิการุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นเรือนเวลาที่นิยามที่แสดงถึงรสนิยมตามแบบฉบับของสุภาพสตรี แม้เวลาจะผ่านไปกว่าหกทศวรรษ นาฬิการุ่นนี้ยังคงรักษาสไตล์และความสง่างามที่สะกดสายตาไว้ในทุกอณู
ตัวเรือนสแตนเลสสตีลของนาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยตัวเชื่อมสายลายคลื่นที่รังสรรค์จากทอง Sedna™ 18K ซึ่งเชื่อมต่อตัวเรือนเข้ากับสายหนังสีขาวได้อย่างลงตัว เข็มนาฬิการูปทรงอัลฟ่าขัดเงาและหลักชั่วโมงประดับเพชร 11 หลักก็ได้รับการรังสรรค์จากทอง Sedna™ เช่นเดียวกัน
ขอบตัวเรือนประดับเพชรที่จัดเรียงแบบสโนว์เซ็ต ส่งรัศมีสุกปลั่งรอบหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวนาลที่ประดับเสริมด้วยเพชรเจียระไนแบบ "Brilliant OMEGA" ซึ่งฝังไว้บนเม็ดมะยมขัดเงา
หน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะคอยบอกวันที่เลื่อนผ่าน ในขณะที่ด้านในตัวเรือนถูกติดตั้งด้วยกลไก OMEGA Co-Axial calibre 8520
ฝาหลังตัวเรือนแบบเปลือยมักจะผลิตขึ้นจากกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทำให้สามารถชมกลไกภายในนาฬิกาได้
วันของเดือนที่ปรากฏอยู่ในหน้าต่างบนหน้าปัดนาฬิกาที่ตำแหน่ง 3 หรือ 6 นาฬิกา หรือภายในหน้าปัดย่อยที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา
อัญมณีล้ำค่าที่เปล่งประกายและมีความแข็งมากที่สุด โดยการคำนวณมูลค่าตามเกณฑ์ 4C: การเจียระไน - กะรัต - ความสะอาด - สี
เม็ดมะยมแบบล็อคในตัวที่ขันเกลียวเข้า ยึดกับก้านของตัวเรือน ถูกติดตั้งให้กับนาฬิกานักดำน้ำที่มี ความสามารถในการกันน้ำสูง
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 5
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
2 / 5
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
3 / 5
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
4 / 5
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
5 / 5
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
และหัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ความเค้นบนชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่น้อยลงย่อมหมายถึงความต้องการในการหล่อลื่นที่น้อยลง ความแม่นยำที่ยาวนานขึ้น และอัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งขึ้น โดยสรุปคือ นาฬิการุ่นนี้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นและยังใช้งานได้ยาวนานกว่า
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -5/+8 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 5
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -5/+8 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
2 / 5
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
3 / 5
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
4 / 5
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
5 / 5
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
กลไกระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial ระบบสปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน สามารถขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ผิวสัมผัสเคลือบโรเดียมพร้อมลายคลื่น Geneva แบบอาหรับสุดพิเศษ
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สายหนัง
34 มม., สตีล บน สายหนัง
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
34 มม., ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
34 มม., ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
34 มม., ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., ทอง Sedna™ บน สายหนัง
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
34 มม., สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สตีล
34 มม., สตีล บน สตีล