Main menu
MyOmega menu
เครื่องมือเปรียบเทียบนาฬิกา ()
คุณไม่มีนาฬิกาที่จะเปรียบเทียบ
หากต้องการเริ่มเปรียบเทียบ ให้เรียกดูคอลเลคชั่นของนาฬิกา OMEGA
เลือกนาฬิกาตั้งแต่ 2 ถึง 4 เรือนเพื่อเปรียบเทียบ
My Omega
ฉันมีบัญชี
ฉันไม่มีบัญชี
สร้างบัญชี My OMEGA เพื่อรับประโยชน์จากบริการพิเศษของเราและติดตามข่าวสารล่าสุดของเรา
Collections menu
Breadcrumb
ราคาขายปลีกที่แนะนำ (รวม VAT)
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
บรอนซ์โกลด์ บน สายหนัง
43 มม., บรอนซ์โกลด์ บน สายหนัง
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
คอลเลคชั่น Chronoscope ได้ผสมผสานการออกแบบของนาฬิกา Speedmaster ในตำนานเข้ากับแรงบันดาลใจจากนาฬิกาข้อมือโครโนกราฟของ OMEGA จากทศวรรษที่ 40
นาฬิกาขนาด 43 มม. รุ่นนี้ทำจากสแตนเลสสตีลพร้อมด้วยหน้าปัดสีน้ำเงินและหน้าปัดย่อยสีเงิน สอดประสานกับวงขอบตัวเรือนชุบอะลูมิเนียมสีน้ำเงินพร้อมด้วยสเกลทาคีมิเตอร์ เข็มนาฬิกาทรงใบไม้และตัวเลขอารบิกชุบโรเดียม อีกทั้งยังมีรางเวลาลาย “ก้นหอย” ที่มีเอกลักษณ์ที่ด้านล่างของตัวเลขด้วย
ส่วนที่โดดเด่นที่สุดคือหน้าปัดพิมพ์สเกลบอกเวลาที่แตกต่างกันสามรูปแบบด้วยการออกแบบลาย “หอยทาก” จากทศวรรษที่ 40 อันได้แก่ สเกลทาคีมิเตอร์ สเกลวัดอัตราการเต้นของหัวใจ สเกลวัดระยะทาง
นาฬิกาเรือนนี้มาพร้อมสายสแตนเลสสตีล และมีหน้าปัดย่อยจับเวลาวินาทีขนาดเล็กสีเงินที่ตำแหน่ง 9 นาฬิกา รวมถึงหน้าปัดย่อยบันทึกเวลา 60 นาที และ 12 ชั่วโมงสีเงินที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ภายในนาฬิกาเรือนนี้ขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Co-Axial Master Chronometer Calibre 9908
ทั้งนี้กลไกจะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ จากสนามแม่เหล็กที่เข้มข้น แม้กระทั่งสนามแม่เหล็กที่มีค่าสูงกว่า 1.5 เทสลา (15,000 เกาส์) ก็ตาม
การรับประกัน ถึงมาตรฐานความเที่ยงตรง ประสิทธิภาพ และ ความสามารถในการทนต่อสนามแม่เหล็กในระดับสูงสุดของอุตสาหกรรมสวิส ตามที่กำหนดไว้โดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
ฝาหลังตัวเรือนแบบเปลือยมักจะผลิตขึ้นจากกระจกแซฟไฟร์ ซึ่งทำให้สามารถชมกลไกภายในนาฬิกาได้
ช่วยให้ปรับเข็มชั่วโมงเป็นโซนเวลาต่างๆ ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องหยุดนาฬิกา
เข็มบนหน้าปัดย่อยที่แสดงเวลาวินาที โดยทั่วไปจะหมุนครบรอบในระยะเวลาหนึ่งนาที
ฟังก์ชั่นโครโนกราฟเป็นกลไกในการบอกแต่ละช่วงเวลา ด้วยเหตุนี้เอง นาฬิกาโครโนกราฟจึงสามารถจับเวลาของเหตุการณ์ต่างๆ ได้ ในขณะที่แสดงเวลาได้เหมือนกับนาฬิกาทั่วไป
เครื่องหมายที่มอบให้กับนาฬิกาที่ผ่านการทดสอบความเที่ยงตรง และได้รับใบรับรองจากหน่วยงานอย่างเป็นทางการ (COSC)
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าชิ้นนี้
ส่งคำขอของคุณเรียบร้อยแล้ว
พนักงานของบูติก OMEGA จะติดต่อคุณโดยเร็วที่สุด
1 / 3
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
2 / 3
อะลูมิเนียมมีข้อได้เปรียบจากการเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างยิ่ง จึงถูกนำไปใช้ในการประดับตกแต่ง การชุบอโนไดซ์ทำให้ชิ้นส่วนนาฬิกามีสีสันหลากหลายสะดุดตา เช่น วงขอบตัวเรือน องค์ประกอบต่างๆ ที่ใช้บนหน้าปัด และเข็มนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการชุบอโนไดซ์แบบพิเศษของ OMEGA ทำให้ได้วงขอบตัวเรือนอะลูมิเนียมที่มีความแข็งเกือบสองเท่าของรุ่นปกติ จึงทนทานต่อความเสียหายจากภายนอกได้มากขึ้น
3 / 3
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
อะลูมิเนียมมีข้อได้เปรียบจากการเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างยิ่ง จึงถูกนำไปใช้ในการประดับตกแต่ง การชุบอโนไดซ์ทำให้ชิ้นส่วนนาฬิกามีสีสันหลากหลายสะดุดตา เช่น วงขอบตัวเรือน องค์ประกอบต่างๆ ที่ใช้บนหน้าปัด และเข็มนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการชุบอโนไดซ์แบบพิเศษของ OMEGA ทำให้ได้วงขอบตัวเรือนอะลูมิเนียมที่มีความแข็งเกือบสองเท่าของรุ่นปกติ จึงทนทานต่อความเสียหายจากภายนอกได้มากขึ้น
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้
ค้นหาสายนาฬิกาที่ใช่ของคุณ
กำหนดค่าสายนาฬิกาของคุณ
/
อุปกรณ์ที่ซ่อนอยู่ภายในนาฬิการุ่นนี้ประกอบด้วนชิ้นส่วนที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งช่วยให้มั่นใจถึงมาตรฐานการทำงานในระดับสูงสุด OMEGA สามารถก้าวผ่านทุกความท้าทายที่สำคัญ ตั้งแต่การใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial เพื่อความแม่นยำที่ยาวนาน ไปจนถึงการใช้สายใยนาฬิกาที่ผลิตจากซิลิกอนเพื่อการต้านสนามแม่เหล็กที่เหนือชั้นกว่า
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่น
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประการแรก กลไกที่ใช้ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC) จากนั้น ตัวเรือนและกลไกของนาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ทั้งแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อกบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิกอน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
1 / 6
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่น
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประการแรก กลไกที่ใช้ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC) จากนั้น ตัวเรือนและกลไกของนาฬิกาจะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ทั้งแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน
2 / 6
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อกบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การตรวจด้วยเครื่องสร้างภาพด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิกอน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
3 / 6
การรับรอง MASTER CHRONOMETER
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
4 / 6
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
5 / 6
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
6 / 6
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
โครโนกราฟไขลานด้วยมือพร้อมคอลัมน์วีลและระบบปล่อยจักร Co-Axial มาตรฐานระดับ Master Chronometer ที่ผ่านการรับรองโดย METAS ว่าสามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็กถึง 15,000 เกาส์ บาลานซ์สปริงซิลิคอน บาร์เรลทั้งสองติดตั้งเรียงกัน พร้อมฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา เข็มชั่วโมง นาที และวินาทีแบบโครโนกราฟตรงกลางหน้าปัด พร้อมด้วยหน้าปัดย่อยขนาดเล็กบอกวินาที หน้าปัดย่อยจับเวลา 12 ชั่วโมง และ 60 นาที ชุบโรเดียมพร้อมลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
สตีล บน สตีล
43 มม., สตีล บน สตีล
สตีล บน สายหนัง
43 มม., สตีล บน สายหนัง
บรอนซ์โกลด์ บน สายหนัง
43 มม., บรอนซ์โกลด์ บน สายหนัง