Skip to content
OMEGA constellation deville seamaster speedmaster specialities

วัสดุที่สร้างความแตกต่าง

ในการพัฒนาการผลิตเรือนเวลาให้ก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง OMEGA จึงมุ่งมั่นที่จะใช้และพัฒนาความเชี่ยวชาญในวัสดุที่สำคัญที่สุดของอุตสาหกรรม ซึ่งไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงามให้กับนาฬิกาเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการทำงานและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการออกแบบแต่ละแบบ

Seamaster Planet Ocean 600m Master chronometer - Steel on steel - Blue dial
Ethically made

ผลิตอย่างมีจริยธรรม

มั่นใจได้ว่าชิ้นงานของ OMEGA ทั้งหมดมาจากแหล่งที่มาและถูกผลิตขึ้นอย่างมีจริยธรรม ในฐานะสมาชิกที่ผ่านการรับรองของ Responsible Jewellery Council (RJC) โดยไม่แสวงหาผลกำไร เรามุ่งมั่นที่จะผลิตอย่างมีจริยธรรมและความโปร่งใส

อ่านเพิ่มเติมที่

โลหะ

โลหะแต่ละชนิดล้วนมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันออกไป นอกเหนือจากรูปลักษณ์ที่ดึงดูดใจแล้ว OMEGA ยังมุ่งมั่นที่จะให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน แม่เหล็ก อุณหภูมิ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อการกัดกร่อน คุณสมบัติเหล่านี้ล้วนจำเป็นในการรังสรรค์ชิ้นส่วนต่างๆ เช่น ตัวเรือน สายนาฬิกา หัวสาย บานพับ และชิ้นส่วนในกลไก
  • วัสดุ - เรดโกลด์

    เรดโกลด์

  • วัสดุ - เยลโลว์โกลด์

    เยลโลว์โกลด์

  • วัสดุ - ไวท์โกลด์

    ไวท์โกลด์

  • วัสดุ - สแตนเลสสตีล

    สแตนเลสสตีล

  • วัสดุ - Liquidmetal<sup>TM</sup>

    LiquidmetalTM

  • วัสดุ - อลูมิเนียม

    อลูมิเนียม

  • วัสดุ - ไทเทเนียมเกรด 2

    ไทเทเนียมเกรด 2

  • วัสดุ - ไทเทเนียมเกรด 5

    ไทเทเนียมเกรด 5

เรดโกลด์

ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เรดโกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการผสมพัลลาเดียม-ทองแดง ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

เยลโลว์โกลด์

ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

ไวท์โกลด์

ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มอย่างยิ่ง ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง ไวท์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการผสมพัลลาเดียม-ทองแดง ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีอ่อนสวยงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย

สแตนเลสสตีล

สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย

LiquidmetalTM

นับตั้งแต่ปี 2010 แบรนด์ OMEGA ได้จับคู่เซรามิกเข้ากับอัลลอยด์ที่มีชื่อว่า LiquidmetalTM มอบความเป็นไปได้ใหม่ในการตกแต่งเรือนเวลาด้วยโลหะสีเทาซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมและมีความเสถียรอย่างยิ่ง อัลลอยด์ชนิดนี้ได้จากการผสมไทเทเนียม เซอร์โคเนียม และทองแดง มันมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึงสามเท่า เมื่อ LiquidmetalTM สร้างพันธะกับเซรามิกแล้วก็จะฉายแววโดดเด่น โดยอัลลอยด์สามารถถูกขัดแต่งจนตัดกันได้อย่างลงตัว (ขัดด้านหรือขัดเงา) เนื่องจากคุณสมบัติความแข็งที่แตกต่างกันระหว่างวัสดุสองชนิด

อลูมิเนียม

อะลูมิเนียมมีข้อได้เปรียบจากการเป็นวัสดุที่มีน้ำหนักเบาอย่างยิ่ง จึงถูกนำไปใช้ในการประดับตกแต่ง การชุบอโนไดซ์ทำให้ชิ้นส่วนนาฬิกามีสีสันหลากหลายสะดุดตา เช่น วงขอบตัวเรือน องค์ประกอบต่างๆ ที่ใช้บนหน้าปัด และเข็มนาฬิกา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กระบวนการชุบอโนไดซ์แบบพิเศษของ OMEGA ทำให้ได้วงขอบตัวเรือนอะลูมิเนียมที่มีความแข็งเกือบสองเท่าของรุ่นปกติ จึงทนทานต่อความเสียหายจากภายนอกได้มากขึ้น

1 / 2 สไลด์

ข้อเสนอแนะของเรา

อัลลอยด์พิเศษ

ในเส้นทางการแสวงหาความเป็นเลิศด้านวัสดุที่ไม่เคยหยุดนิ่งของแบรนด์ OMEGA จึงได้สร้างอัลลอยด์พิเศษขึ้นมาหลากหลายชนิด ซึ่งจะช่วยเสริมการออกแบบนาฬิกาด้วยโทนสีใหม่ที่โดดเด่นและอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น อัลลอยด์แต่ละชนิดผ่านการรังสรรค์ขึ้นมาอย่างสร้างสรรค์ ช่วยมอบเกิดข้อดีที่แสนพิเศษจากตัววัสดุเอง ทว่ายังคงให้รูปลักษณ์และคุณภาพอันยากจะหาผู้ใดเปรียบในโลกของการผลิตนาฬิกาแก่ผู้ซื้อ
  • วัสดุ - บรอนซ์โกลด์

    บรอนซ์โกลด์

  • วัสดุ - ทอง Sedna<sup>TM</sup>

    ทอง SednaTM

  • วัสดุ - ทอง Moonshine<sup>TM</sup>

    ทอง MoonshineTM

  • วัสดุ - Canopus Gold<sup>TM</sup>

    Canopus GoldTM

บรอนซ์โกลด์

ทองบรอนซ์ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อมอบเฉดสีอ่อนและสะกดสายตา อีกทั้งยังเป็นบรอนซ์อัลลอยด์ที่สามารถสัมผัสกับร่างกายได้โดยตรงจากส่วนประกอบที่ไม่เหมือนใคร อัลลอยด์ชนิดนี้ประกอบด้วยโลหะมีค่าอย่างทอง 37.5% หรือทอง 9K เช่นเดียวกับพัลลาเดียมและเงินเพื่อสร้างสีที่อยู่ตรงกลางระหว่างทอง 18K MoonshineTM gold และทอง SednaTM 18K นอกจากจะมอบเฉดสีชมพูอ่อน ทองบรอนซ์ยังสามารถต้านทานการสึกกร่อนโดยไม่เกิดออกซิเดชันเป็นคราบสีเขียวน้ำเงิน และจะค่อยๆ แสดงร่องรอยจากกาลเวลาอย่างช้าๆ และรักษาพาทิน่าธรรมชาติอันงดงามได้ยาวนาน สำหรับผู้ที่หลงใหลในนาฬิกาบรอนซ์และวัสดุนำสมัย นี่คือตัวเลือกที่คุณไม่ควรพลาด!

ทอง SednaTM

OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K ทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร

ทอง MoonshineTM

OMEGA ได้รังสรรค์ทอง MoonshineTM เยลโลว์โกลด์อัลลอยด์ 18K ขึ้นในปี 2019 โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงจันทร์ที่เฉิดฉายท่ามกลางท้องฟ้าสีน้ำเงินเข้ม ทอง 18K MoonshineTM ของ OMEGA นั้นมีสีที่อ่อนกว่าเยลโลว์โกลด์ 18K ทั่วไปและทนทานต่อการซีดจางมากกว่า มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของเงิน ทองแดง และพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร

Canopus GoldTM

OMEGA ได้ใช้ Canopus GoldTM ซึ่งเป็นไวท์โกลด์อัลลอยด์ 18K ตั้งแต่ปี 2015 นอกจากจะให้ความหรูหราในทุกอณู ทองชนิดนี้ยังถูกจัดไว้ในกลุ่มทอง 18K แบบเดียวกับทองชนิดอื่นๆ Canopus Gold™ โดดเด่นด้วยคุณสมบัติความแวววาวสูง ความขาว และทนทานไม่ซีดจาง มันจึงเป็นวัสดุในอุดมคติของเรือนเวลาชั้นสูงหรือนาฬิกาประดับเพชร
อัลลอยด์ชนิดนี้ได้รับการตั้งชื่อตามดาว Canopus อันสุกสกาวซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าดวงอาทิตย์ 71 เท่าและสว่างกว่าดวงอาทิตย์ 10,000 เท่า เนื่องจากความสว่างและตำแหน่ง ทำให้ Canopus กลายเป็นดาวที่องค์กรอวกาศหลายแห่งใช้อ้างอิงเสมอ
โดยมีส่วนประกอบที่ไม่เหมือนใครด้วยแพลตินัม โรเดียม และพัลลาเดียม ที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร

ข้อเสนอแนะของเรา

“วัสดุต่างๆ ของ OMEGA มีคุณสมบัติเฉพาะของตน ตั้งแต่สีและความมันวาว ไปจนถึงความแข็งแรง หรือแม้กระทั่งคุณสมบัติการต้านทานต่อแม่เหล็ก”

เซรามิก

OMEGA มีความเชี่ยวชาญในการใช้เซรามิกแบบที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบ ตั้งแต่เมื่อ 10 ปีก่อน เซรามิกมีต้นรากมาจากคำในภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาด้วยอุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นโดยแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสแตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
OMEGA's ceramic creations video
Ceramics

“มีเพียงแบรนด์ที่มีจิตวิญญาณแห่งการบุกเบิกของ OMEGA เท่านั้น ที่จะสามารถบรรลุถึงความหลากหลายและความเป็นเลิศด้านวัสดุที่ยากจะหาผู้ใดเปรียบได้”

  • The 5 key steps in the creation Of our grey ceramic

    ภาพระยะใกล้

    สีเทาที่แวววาวเป็นผลลัพธ์มาจากนวัตกรรมทางวิศวกรรมและการออกแบบที่เปี่ยมด้วยแรงบันดาลใจ

  • 1.THIS SPEEDMASTER STARTS ITS LIFE AS WHITE CERAMIC POWDER

    ผงเซรามิก

    ผงเซรามิกที่มีเซอร์โคเนียมเป็นส่วนประกอบหลักถูกกดอัดให้เป็นรูปทรงของตัวเรือน

  • 2.USING SINTERING, THE CASES SHRINK TO THEIR FINAL SIZE

    การเผาซินเตอร์

    การเผาซินเตอร์เป็นกระบวนการให้ความร้อนที่มีอุณหภูมิสูงถึง 1400° C

  • 3.THE CASES ARE THEN MACHINED WITH DIAMOND TOOLS

    เครื่องมือผลิตจากเพชร

    เครื่องจักรที่ใช้เพชรเป็นส่วนประกอบจะมีความแข็งซึ่งจำเป็นต้องใช้ในการเจียรขอบและเซาะร่อง

  • 4.THE CASE IS TRANSFORMED FROM WHITE TO GREY AT 20,000° C

    การให้ความร้อนพลาสมา

    การเปลี่ยนแปลงของสีจะเกิดขึ้นที่ระดับโมเลกุลในเตาเผาพลาสมา

  • 5.DETAILS ON THE BEZEL AND CASE ARE LASER ENGRAVED

    การแกะสลักด้วยเลเซอร์

    เมื่อมีสเกลทาคีมิเตอร์อันโดดเด่นและชื่อนาฬิกาแล้ว เอกลักษณ์แห่งนาฬิกาก็เป็นอันสมบูรณ์

ข้อเสนอแนะของเรา