The store will not work correctly in the case when cookies are disabled.
De Ville
Prestige
Quartz 30 มม.
434.58.30.60.55.002
คำอธิบาย
คอลเลคชั่นนาฬิกาที่เหนือกาลเวลาตั้งแต่ปี 1994 อย่าง OMEGA De Ville Prestige ได้เข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 3 แล้วในปัจจุบัน แต่ยังคงแสดงให้เห็นถึงการออกแบบสุดคลาสสิกและความสง่างามอันประณีต โดยนาฬิกามาพร้อมลวดลาย การตกแต่ง และสีสันที่หลากหลายเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และบุคลิกที่แตกต่างกัน
ในรุ่นเยลโลว์โกลด์ 18K ขนาด 30 มม. นี้มาพร้อมขอบตัวเรือนประดับเพชร และหน้าปัดที่รังสรรค์จากเปลือกหอยมุกสีขาว หน้าปัดโดดเด่นด้วยเข็มนาฬิกาชุบเยลโลว์โกลด์ ตลอดจนตัวเลขโรมันและหลักชั่วโมงประดับเพชรที่จัดวางสลับกัน
รูปลักษณ์อันบริสุทธิ์ของนาฬิกาได้รับการเติมเต็มด้วยรางนาทีแบบจุดบนโซนด้านใน และฝาหลังทั้งหมดที่ตกแต่งด้วยเหรียญสลักลายนูนรูปเทพโครนอส
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมสายหนังสีเขียวมะกอกที่ส่องประกาย และขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Quartz Calibre 4061 ที่มากับแบตเตอรี่ ซึ่งมีอายุการใช้งานไม่ต่ำกว่า 48 เดือน
อ่านเพิ่มเติม
ปิด
รับประกัน 5 ปี
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
ตัวเรือน
- น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ):
37 g
- ขนาดขานาฬิกา:
14 มม.
- ความหนา:
7.3 มม.
- ตัวเรือน:
เยลโลว์โกลด์
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน:
30 มม.
- คุณสมบัติการกันน้ำ:
3 บาร์ (30 ม. / 100 ฟุต)
หน้าปัดและกระจกคริสตัล
- สีของหน้าปัด:
สีขาว
- คริสตัล:
กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน
สายนาฬิกา
- ประเภทสาย:
สายหนัง
- สีของสายนาฬิกา:
สีเขียว
- พื้นผิวของสายนาฬิกา:
หนังจระเข้
- ด้านล่างของสายนาฬิกา:
หนังลูกวัว
- ประเภทหัวสาย:
หัวสายแบบหัวเข็มขัด
- วัสดุของหัวสาย:
เยลโลว์โกลด์
กลไก
-
คาลิเบอร์:
OMEGA 4061
- กลไกควอตซ์พร้อมคุณสมบัติ "Long Life " เพื่อเพิ่มอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ให้ยาวนานที่สุด โลโก้ Omega สีแดงสุดพิเศษพร้อมชิ้นส่วนชุบโรเดียมและการขัดแต่งแบบวงกลม
-
อายุการใช้งานแบตเตอรี่:
48 เดือน
-
ประเภท:
ควอตซ์
วัสดุหลัก
-
1 / 4
เยลโลว์โกลด์
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
-
2 / 4
เพชร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
-
3 / 4
Mother-of-pearl
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
-
4 / 4
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
เยลโลว์โกลด์
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
เพชร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
Mother-of-pearl
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
โฉมใหม่สำหรับนาฬิกาของคุณ
นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้
ค้นหาสายนาฬิกาที่ใช่ของคุณ
/
รูปแบบต่างๆ
of
Prestige
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สตีล
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
O‑MEGASTEEL บน สตีล
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สตีล
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สตีล
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สตีล
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล บน สตีล
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Quartz 30 มม.
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Quartz 30 มม.
-
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.
-
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Quartz 30 มม.