The store will not work correctly in the case when cookies are disabled.
Seamaster
Seamaster 300
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
234.63.41.21.99.001
คำอธิบาย
OMEGA ได้เปิดตัว Seamaster 300 เป็นครั้งแรกในปี 1957 ในฐานะนาฬิกาที่ออกแบบมาสำหรับนักดำน้ำโดยเฉพาะ สำหรับนาฬิการ่วมสมัยรุ่นนี้ การออกแบบระดับตำนานได้ถูกเปลี่ยนโฉมให้มีความหรูหรายิ่งขึ้น
ตัวเรือนขนาด 41 มม. ทำจากเยลโลว์โกลด์ 18K และมีขอบตัวเรือนเซรามิกสีเขียวพร้อมสเกลดำน้ำ OMEGA Ceragold™ รายละเอียดที่น่าสนใจที่สุดคือหน้าปัดสีเขียวเข้มของนาฬิกา ซึ่งทำมาจากหินมาลาไคต์อันล้ำค่า ประกอบด้วยเข็มนาฬิกาเยลโลว์โกลด์ 18K เคลือบด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova ในสไตล์ “วินเทจ”
นาฬิกามาพร้อมสายหนังสีเขียว และขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 8913 ซึ่งผ่านการรับรองมาตรฐานสูงสุดของอุตสาหกรรมจากสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS)
อ่านเพิ่มเติม
ปิด
รับประกัน 5 ปี
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
ตัวเรือน
- น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ):
142 g
- ขนาดขานาฬิกา:
21 มม.
- ความหนา:
14.7 มม.
- ตัวเรือน:
เยลโลว์โกลด์
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน:
41 มม.
- คุณสมบัติการกันน้ำ:
30 บาร์ (300 ม. / 1000 ฟุต)
หน้าปัดและกระจกคริสตัล
- สีของหน้าปัด:
สีเขียว
- คริสตัล:
กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน
สายนาฬิกา
- วัสดุ:
สายหนัง
- สีของสายนาฬิกา:
สีเขียว
- ด้านล่างของสายนาฬิกา:
หนังจระเข้ขัดลาย
- ประเภทหัวสาย:
หัวสายแบบพับ
- วัสดุของหัวสาย:
เยลโลว์โกลด์
วัสดุหลัก
-
1 / 3
เยลโลว์โกลด์
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
-
2 / 3
เซรามิก
OMEGA มีความเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับได้ยากในการนำเซรามิกมาใช้กับการผลิตนาฬิกาด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี เซรามิกมีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นอย่างแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
-
3 / 3
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
เยลโลว์โกลด์
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
เซรามิก
OMEGA มีความเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับได้ยากในการนำเซรามิกมาใช้กับการผลิตนาฬิกาด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี เซรามิกมีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นอย่างแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
เบื้องหลังความสง่างามของเรือนเวลาระดับ Master Chronometer ทุกเรือนคือการทดสอบด้วยมาตรฐานสูงสุด: ด้วยการทดสอบ 8 ประเภทตลอด 10 วัน เพื่อให้มั่นใจถึงความเที่ยงตรงที่มากกว่าและคุณสมบัติต้านทานอำนาจแม่เหล็ก เราได้ยกระดับมาตรฐานของเรา คุณเองก็ทำได้เช่นกัน
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ 0/+5 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ %3/%4 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
-
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
-
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
กลไก
OMEGA
คาลิเบอร์ 8913
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน สองบาร์เรลติดตั้งเรียงกัน พร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา ตกแต่งที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยโรเตอร์และบาลานซ์บริดจ์ที่ทำจากทอง Sedna™ 18K พร้อมลายคลื่น Geneva แบบอาหรับ
-
พลังงานสำรอง 60 ชั่วโมง
-
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
-
ความถี่ 3.5 Hz
Product view from different angles
รูปแบบต่างๆ
of
Seamaster 300
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
บรอนซ์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
แพลตินัม บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
แพลตินัม บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 41 mm