The store will not work correctly in the case when cookies are disabled.
Seamaster
Diver 300M
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
210.20.42.20.03.001
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
การเลือกของคุณ
Seamaster
Diver 300M Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
finale price
จำนวน:qty
:
คำอธิบาย
เรือนเวลา Seamaster Professional Diver 300M ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์ตั้งแต่ปี 1993 คอลเลคชั่นที่ทันสมัยในปัจจุบันได้หยิบนำมรดกทางทะเลที่อันโด่งดังมารังสรรค์ใหม่ด้วยนวัตกรรมและการออกแบบที่ดีที่สุดของ OMEGA
รุ่นขนาด 42 มม. นี้ทำจากสแตนเลสสตีลและเยลโลว์โกลด์ 18K มีขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินพร้อมสเกลดำน้ำ Ceragold™ หน้าปัดทำจากเซรามิกสีน้ำเงินขัดเงาเช่นกัน มาพร้อมกับลายคลื่นแกะสลักด้วยเลเซอร์และหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
เข็มแบบฉลุและหลักชั่วโมงเยลโลว์โกลด์ 18K บรรจุด้วยสารเรืองแสง Super-LumiNova สีขาว ขณะที่ฮีเลียมวาล์วได้รับการออกแบบเป็นรูปทรงกรวย
นาฬิการุ่นนี้มาพร้อมสแตนเลสสตีลและเยลโลว์โกลด์ 18K และขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Chronometer Calibre 8800 ซึ่งสามารถมองเห็นได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์บนฝาหลังที่มีขอบลายคลื่น
อ่านเพิ่มเติม
ปิด
รับประกัน 5 ปี
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
ตัวเรือน
- น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ):
203 g
- ขนาดขานาฬิกา:
20 มม.
- ความหนา:
13.6 มม.
- ตัวเรือน:
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน:
42 มม.
- คุณสมบัติการกันน้ำ:
30 บาร์ (300 ม. / 1000 ฟุต)
หน้าปัดและกระจกคริสตัล
- สีของหน้าปัด:
สีน้ำเงิน
- คริสตัล:
กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน
สายนาฬิกา
- วัสดุ:
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
- ประเภทของหัวสาย:
หัวสายแบบพับพร้อมระบบขยายความยาวสายสำหรับกิจกรรมใต้น้ำ
วัสดุหลัก
-
1 / 4
เยลโลว์โกลด์
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
-
2 / 4
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
-
3 / 4
เซรามิก
OMEGA มีความเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับได้ยากในการนำเซรามิกมาใช้กับการผลิตนาฬิกาด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี เซรามิกมีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นอย่างแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
-
4 / 4
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
เยลโลว์โกลด์
ทองคำบริสุทธิ์ (24K) นั้นจะมีสีเหลืองอมแดงเล็กน้อยและอ่อนนุ่มมาก ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือโลหะชนิดอื่น เพื่อให้สามารถใช้งานได้หลากหลาย ทอง 18K (สัดส่วนทองบริสุทธิ์อย่างน้อย 75%) นั้นได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานชั้นเลิศสำหรับการผลิตนาฬิกาและเครื่องประดับ เพราะให้ความสมดุลระหว่างความบริสุทธิ์และการนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง เยลโลว์โกลด์ 18K แบบดั้งเดิมจะถูกทำให้อยู่ในรูปอัลลอยด์ด้วยการเจือทองแดง-เงิน ซึ่งจะทำให้มีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนดีเยี่ยม ในขณะที่ไม่ทำปฏิกิริยาทางชีวเคมีใดๆ มอบเฉดสีที่งดงามเข้ากับผู้สวมใส่ได้ดี แม้กระทั่งกับผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
เซรามิก
OMEGA มีความเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับได้ยากในการนำเซรามิกมาใช้กับการผลิตนาฬิกาด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี เซรามิกมีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นอย่างแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
โฉมใหม่สำหรับนาฬิกาของคุณ
นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้
ค้นหาสายนาฬิกาที่ใช่ของคุณ
/
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
เบื้องหลังความสง่างามของเรือนเวลาระดับ Master Chronometer ทุกเรือนคือการทดสอบด้วยมาตรฐานสูงสุด: ด้วยการทดสอบ 8 ประเภทตลอด 10 วัน เพื่อให้มั่นใจถึงความเที่ยงตรงที่มากกว่าและคุณสมบัติต้านทานอำนาจแม่เหล็ก เราได้ยกระดับมาตรฐานของเรา คุณเองก็ทำได้เช่นกัน
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+6 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ 0/+6 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ %3/%4 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
-
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
-
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
กลไก
OMEGA
คาลิเบอร์ 8800
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน และกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ผิวสัมผัสเคลือบโรเดียมพร้อมลายคลื่น Geneva แบบอาหรับ
-
พลังงานสำรอง 55 ชั่วโมง
-
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
-
ความถี่ 3.5 Hz
Product view from different angles
รูปแบบต่างๆ
of
Diver 300 M
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
ไทเทเนียม บน สาย NATO
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
007 Edition
-
ไทเทเนียม บน ไทเทเนียม
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
007 Edition
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
Nekton Edition
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
Nekton Edition
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
James Bond 60th anniversary
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
"Beijing 2022"
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
ทอง Sedna™ บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
ไทเทเนียม ‑ แทนทาลัม ‑ ทอง Sedna™ บน ไทเทเนียม ‑ แทนทาลัม ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
-
ทอง Canopus™ บน ทอง Canopus™
Co‑Axial Master Chronometer 42 mm
James Bond 60th anniversary