The store will not work correctly in the case when cookies are disabled.
Seamaster
Planet Ocean 600M
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
215.30.44.21.03.001
การเลือกของคุณ
Seamaster
Planet Ocean 600M Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
สตีล บน สตีล
finale price
จำนวน:qty
:
คำอธิบาย
แบรนด์ได้เปิดตัวสายการผลิต Planet Ocean ในปี 2005 โดยระลึกถึงเรื่องราวอันเป็นตำนานทางทะเลของ OMEGA เพื่ออุทิศให้กับตัวตนทางทะเลที่สั่งสมมาของ OMEGA ในปัจจุบัน OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M Master Chronometer ซึ่งเปี่ยมไปด้วยสไตล์นั้นนับเป็นการยกย่องให้กับนาฬิกาดำน้ำในอดีตของ OMEGA
นาฬิการุ่นนี้โดดเด่นด้วยหน้าปัดเซรามิกสีน้ำเงินพร้อมตัวเลขอารบิกและหน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา รวมถึงกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน ขอบตัวเรือนเซรามิกสีน้ำเงินแบบทิศทางเดียวพร้อมสเกลดำน้ำจาก OMEGA Liquidmetal™ ได้รับการติดตั้งบนตัวเรือนสแตนเลสสตีลขนาด 43.5 มม.
รายละเอียดอื่นๆ ประกอบด้วย ฝาหลังขันเกลียวแบบ Alveol พร้อมทั้งสายนาฬิกาที่ทำจากสแตนเลสสตีลและหันสายแบบบานพับและขยายได้ซึ่งได้รับการจดสิทธิบัตร
OMEGA Seamaster Planet Ocean 600M Master Chronometer กันน้ำได้ถึง 600 เมตร / 2,000 ฟุต / 60 บาร์ และมาพร้อมกับฮีเลียมวาล์ว สามารถชมการทำงานของหัวใจจักรกล OMEGA Master Chronometer calibre 8900 ของนาฬิการุ่นนี้ได้ผ่านฝาหลังที่ติดตั้งกระจกแซฟไฟร์ นาฬิการุ่นนี้ได้ผ่านการทดสอบอันเข้มงวด 8 รายการที่กำหนดโดย METAS (สถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส) เพื่อรับรองสถานะ Master Chronometer
อ่านเพิ่มเติม
ปิด
รับประกัน 5 ปี
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
ตัวเรือน
- น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ):
216 g
- ขนาดขานาฬิกา:
21 มม.
- ความหนา:
16.1 มม.
- ตัวเรือน:
สตีล
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน:
43.5 มม.
- คุณสมบัติการกันน้ำ:
60 บาร์ (600 ม. / 2000 ฟุต)
หน้าปัดและกระจกคริสตัล
- สีของหน้าปัด:
สีน้ำเงิน
- คริสตัล:
กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน
สายนาฬิกา
- วัสดุ:
สตีล
- ประเภทของหัวสาย:
หัวสายแบบพับพร้อมระบบขยายความยาวสายสำหรับกิจกรรมใต้น้ำ
วัสดุหลัก
-
1 / 4
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
-
2 / 4
เซรามิก
OMEGA มีความเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับได้ยากในการนำเซรามิกมาใช้กับการผลิตนาฬิกาด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี เซรามิกมีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นอย่างแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
-
3 / 4
LiquidmetalTM
นับตั้งแต่ปี 2010 แบรนด์ OMEGA ได้จับคู่เซรามิกเข้ากับอัลลอยด์ที่มีชื่อว่า LiquidmetalTM มอบความเป็นไปได้ใหม่ในการตกแต่งเรือนเวลาด้วยโลหะสีเทาซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมและมีความเสถียรอย่างยิ่ง อัลลอยด์ชนิดนี้ได้จากการผสมไทเทเนียม เซอร์โคเนียม และทองแดง มันมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึงสามเท่า เมื่อ LiquidmetalTM สร้างพันธะกับเซรามิกแล้วก็จะฉายแววโดดเด่น โดยอัลลอยด์สามารถถูกขัดแต่งจนตัดกันได้อย่างลงตัว (ขัดด้านหรือขัดเงา) เนื่องจากคุณสมบัติความแข็งที่แตกต่างกันระหว่างวัสดุสองชนิด
-
4 / 4
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
เซรามิก
OMEGA มีความเชี่ยวชาญชนิดหาตัวจับได้ยากในการนำเซรามิกมาใช้กับการผลิตนาฬิกาด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมามากกว่า 10 ปี เซรามิกมีต้นกำเนิดมาจากคำภาษากรีก "เครามอส" สารอนินทรีย์อโลหะที่ได้จากการเผาที่อุณหภูมิสูง ซึ่งช่วยให้สามารถผลิตชิ้นส่วนนาฬิกาที่มีความหนาแน่นอย่างแท้จริงพร้อมทั้งมีคุณสมบัติทางกลที่ยอดเยี่ยม เซรามิกเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับลูกค้าเมื่อเลือกนาฬิกา เนื่องจากมีหลายโทนสีที่น่าหลงไหลและยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น น้ำหนักที่เบากว่าสเตนเลสสตีลถึง 2 เท่า ทนทานต่อการใช้งาน ทนต่อการขีดข่วนได้สูง มีความเฉื่อยทางเคมี ไม่ทำปฏิกิริยาทางเคมี เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังไม่ถูกเหนี่ยวนำโดยสนามแม่เหล็ก
LiquidmetalTM
นับตั้งแต่ปี 2010 แบรนด์ OMEGA ได้จับคู่เซรามิกเข้ากับอัลลอยด์ที่มีชื่อว่า LiquidmetalTM มอบความเป็นไปได้ใหม่ในการตกแต่งเรือนเวลาด้วยโลหะสีเทาซึ่งมีคุณสมบัติต้านทานรอยขีดข่วนได้ดีกว่าเดิมและมีความเสถียรอย่างยิ่ง อัลลอยด์ชนิดนี้ได้จากการผสมไทเทเนียม เซอร์โคเนียม และทองแดง มันมีความแข็งมากกว่าสแตนเลสสตีลถึงสามเท่า เมื่อ LiquidmetalTM สร้างพันธะกับเซรามิกแล้วก็จะฉายแววโดดเด่น โดยอัลลอยด์สามารถถูกขัดแต่งจนตัดกันได้อย่างลงตัว (ขัดด้านหรือขัดเงา) เนื่องจากคุณสมบัติความแข็งที่แตกต่างกันระหว่างวัสดุสองชนิด
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
โฉมใหม่สำหรับนาฬิกาของคุณ
นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้
ค้นหาสายนาฬิกาที่ใช่ของคุณ
/
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
เบื้องหลังความสง่างามของเรือนเวลาระดับ Master Chronometer ทุกเรือนคือการทดสอบด้วยมาตรฐานสูงสุด: ด้วยการทดสอบ 8 ประเภทตลอด 10 วัน เพื่อให้มั่นใจถึงความเที่ยงตรงที่มากกว่าและคุณสมบัติต้านทานอำนาจแม่เหล็ก เราได้ยกระดับมาตรฐานของเรา คุณเองก็ทำได้เช่นกัน
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+5 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ 0/+5 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ %3/%4 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
-
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
-
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
กลไก
OMEGA
คาลิเบอร์ 8900
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมสปริงบาลานซ์ซิลิกอน สองบาร์เรลติดตั้งเรียงกัน พร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ฟังก์ชั่นบอกเขตเวลา ยังมีการตกแต่งที่หรูหราเป็นพิเศษด้วยโรเตอร์และบริดจ์ชุบด้วยโรเดียม และลายเจนีวาเวฟแบบอาหรับ
-
พลังงานสำรอง 60 ชั่วโมง
-
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
-
ความถี่ 3.5 Hz
Product view from different angles
รูปแบบต่างๆ
of
Planet Ocean 600M
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สาย NATO
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
ไทเทเนียม บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
ไทเทเนียม บน ไทเทเนียม
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สายหนังพร้อมบุด้วยยาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สายนาฬิกายาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
"Pyeongchang 2018" รุ่นลิมิเต็ด เอดิชั่น
-
สตีล บน สายหนังพร้อมบุด้วยยาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
ทอง Sedna™ บน สายหนังพร้อมบุด้วยยาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm
-
ไวท์โกลด์ บน สายหนังพร้อมบุด้วยยาง
Co‑Axial Master Chronometer 43.5 mm