The store will not work correctly in the case when cookies are disabled.
De Ville
Ladymatic
Co‑Axial Chronometer 34 mm
425.35.34.20.55.002
การเลือกของคุณ
De Ville
Ladymatic Co‑Axial Chronometer 34 mm
สตีล บน สตีล
finale price
จำนวน:qty
:
คำอธิบาย
เมื่อ Ladymatic ปรากฏขึ้นเป็นเผยโฉมครั้งแรกในปี 1955 นาฬิการุ่นนี้ก็ได้กลายเป็นเรือนเวลาที่นิยามที่แสดงถึงรสนิยมตามแบบฉบับของสุภาพสตรี เวลาจะผ่านไปกว่าหกทศวรรษ นาฬิการุ่นนี้ยังคงรักษาสไตล์และความสง่างามที่ตรึงตาตรึงใจไว้ในทุกๆ อณูแม้เวลาจะผ่านไปกว่าหกทศวรรษ นาฬิการุ่นนี้ยังคงรักษาสไตล์และความสง่างามที่สะกดสายตาไว้ในทุกอณู
นาฬิการุ่นนี้ใช้สแตนเลสสตีลในการรังสรรค์ทั้งตัวเรือนขนาด 34 มม. และสายนาฬิกา เข็มนาฬิการูปทรงอัลฟ่าขัดเงานี้รังสรรค์จากไวท์โกลด์อย่างพิถีพิถัน พร้อมด้วยหลักชั่วโมงประดับเพชร 11 หลัก
ขอบตัวเรือนประดับเพชรที่จัดเรียงแบบสโนว์เซ็ต ส่งรัศมีสุกปลั่งรอบหน้าปัดเปลือกหอยมุกสีขาวนาลที่ประดับเสริมด้วยเพชรเจียระไนแบบ "Brilliant OMEGA" ซึ่งฝังไว้บนเม็ดมะยมขัดเงา
หน้าต่างวันที่ ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกาจะคอยบอกวันที่เลื่อนผ่าน ในขณะที่ด้านในตัวเรือนถูกติดตั้งด้วยกลไก OMEGA Co-Axial calibre 8520
อ่านเพิ่มเติม
ปิด
รับประกัน 5 ปี
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
ตัวเรือน
- ขนาดขานาฬิกา:
16 มม.
- ความยาวรวมขาสายนาฬิกา:
41.6 ซม.
- ความหนา:
12.0 มม.
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน:
34 มม.
- ตัวเรือน:
สตีล
- คุณสมบัติการกันน้ำ:
10 บาร์ (100 ม. / 330 ฟุต)
- น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ):
106 g
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการวัดขนาด
การวัดขนาดตัวเรือน
-
1. ระหว่างขานาฬิกา
นี่คือการวัดขนาดสำหรับการติดตั้งสายนาฬิกา
-
2. ความยาวรวมขาสายนาฬิกา
นี่คือความยาวทั้งหมดของตัวเรือน จากขานาฬิกาด้านบนไปจนถึงขาด้านล่าง
-
3. ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน
นี่คือความกว้างของตัวเรือนทั้งหมด ไม่รวมเม็ดมะยมและปุ่มกด
-
4. ความหนา
เมื่อมองจากด้านข้าง ค่านี้จะวัดจากฐานของนาฬิกาไปจนถึงพื้นผิวกระจก
หน้าปัดและกระจกคริสตัล
- สีของหน้าปัด:
สีขาว
- คริสตัล:
กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน
สายนาฬิกา
- วัสดุ:
สตีล
- ประเภทของหัวสาย:
หัวสายลายผีเสื้อ
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
และหัวใจสำคัญของนาฬิการุ่นนี้คือระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ซึ่งถือเป็นการปฏิวัติการผลิตนาฬิกาที่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1999 ความเค้นบนชิ้นส่วนเคลื่อนไหวที่น้อยลงย่อมหมายถึงความต้องการในการหล่อลื่นที่น้อยลง ความแม่นยำที่ยาวนานขึ้น และอัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งขึ้น โดยสรุปคือ นาฬิการุ่นนี้ทำงานได้ดียิ่งขึ้นและยังใช้งานได้ยาวนานกว่า
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -5/+8 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
คุณสมบัติการกันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
รับประกัน 5 ปี
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
ต้องการการบริการน้อย
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
-
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
การออกแบบกลไก Co-Axial ของเราใช้ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ที่ปฏิวัติวงการ ซึ่งด้วยแรงเสียดทานที่น้อยลง ช่วยให้กลไกสามารถรักษาความแม่นยำได้นานขึ้น และยังให้อัตราการสำรองพลังงานที่เสถียรยิ่งกว่า กลไกทุกชุดผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์ตามมาตรฐานสากล ISO3159 ซึ่งต้องมีระดับความเที่ยงตรงที่ -5/+8 วินาทีต่อวัน ตามการทดสอบที่ Official Swiss Chronometer Control (COSC)
-
คุณสมบัติการกันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังไม่เสียหายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
-
รับประกัน 5 ปี
ภารกิจของเราในการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมและผลักดันขอบเขตของคุณภาพให้ไปไกลยิ่งกว่า รวมไปถึงการรับประกันนาฬิกา OMEGA ทุกเรือนเป็นเวลา 5 ปีเต็ม คำมั่นสัญญาที่เรามีต่อลูกค้านี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจที่เรามีต่อความเป็นเลิศในนาฬิกาของเรา รวมถึงมอบความไว้วางใจและความมั่นใจเป็นพิเศษเมื่อคุณเลือกนาฬิกาของคุณ
-
ต้องการการบริการน้อย
การเข้าศูนย์บริการที่น้อยลง ระบบปล่อยจักรแบบ Co-Axial ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดแรงเสียดทานภายในกลไก อันเป็นผลให้กลไกต้องการการหล่อลื่นน้อยลง จึงต้องการการบำรุงรักษาที่น้อยกว่า เมื่อเทียบกับนาฬิกาที่ไม่ได้ใช้กลไก Co-Axial ช่วงเวลาที่ต้องนำนาฬิกาเข้ารับบริการนั้นจะยาวนานกว่ามาก
-
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกา OMEGA สามารถผ่านการทดสอบไปจนถึงขีดจำกัดสูงสุดได้ในระหว่างกระบวนการรับรองมาตรฐานเฉพาะทาง ซึ่งการทดสอบในช่วงนี้รวมไปถึงการทดสอบการรับแรงกระแทก และเพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาจะยังคงความเที่ยงตรงอยู่แม้ผ่านการกระแทกอย่างรุนแรง นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนได้รับการออกแบบให้ทนทานต่อแรงกระแทกจากการตกหล่นที่ระยะ 1 เมตรลงบนพื้นไม้เนื้อแข็ง สำหรับนาฬิกามาตรฐาน 150g แล้ว การเร่งความเร็วอย่างกะทันหันและรวดเร็วนี้เทียบเท่ากับแรงโน้มถ่วงที่กระทำลงบนตัวเรือนสูงถึง 5,000 g เลยทีเดียว
วัสดุหลัก
-
1 / 4
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
-
2 / 4
เพชร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรResponsible Jewellery Council (RJC)ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
-
3 / 4
Mother-of-pearl
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
-
4 / 4
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
เพชร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไรResponsible Jewellery Council (RJC)ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
Mother-of-pearl
เปลือกหอยมุกหรือเป็นที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า “nacre” คือวัตถุดิบผสมระหว่างอินทรีย์-อนินทรีย์ซึ่งเกิดภายในเปลือกชั้นในของสัตว์จำพวกหอยเช่นเดียวกับมุก มันแข็งแกร่ง ยืดหยุ่น สามารถมอบแสงสะท้อนได้ราวกับสายรุ้ง สีที่มองเห็นจะแตกต่างกันออกไปตามความยาวคลื่นแสงจากมุมที่กระทบสายตา คอลเลคชั่นเรือนเวลาสำหรับสตรีของ OMEGA ที่รังสรรค์มาอย่างประณีตพิถีพิถัน ช่วยขับเน้นให้หน้าปัดเปลือกหอยมุกมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์อย่างที่สุด
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
กลไก
OMEGA
คาลิเบอร์ 8520
กลไกระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial ระบบสปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน สามารถขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ผิวสัมผัสเคลือบโรเดียมพร้อมลายคลื่น Geneva แบบอาหรับสุดพิเศษ
-
พลังงานสำรอง 50 ชั่วโมง
-
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
-
ความถี่ 3.5 Hz
รูปแบบต่างๆ
of
Ladymatic
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Canopus™ บน ทอง Canopus™
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Sedna™ บน ทอง Sedna™
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เรดโกลด์ บน สตีล ‑ เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เรดโกลด์ บน สตีล ‑ เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Chronometer 34 mm
-
เรดโกลด์ บน เรดโกลด์
Co‑Axial Chronometer 34 mm