The store will not work correctly in the case when cookies are disabled.
De Ville
Prestige
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
434.23.40.20.59.001
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
คำอธิบาย
คอลเลคชั่นนาฬิกาที่เหนือกาลเวลาตั้งแต่ปี 1994 อย่าง OMEGA De Ville Prestige ได้เข้าสู่เจเนอเรชั่นที่ 3 แล้วในปัจจุบัน แต่ยังคงแสดงให้เห็นถึงการออกแบบสุดคลาสสิกและความสง่างามอันประณีต โดยนาฬิกามาพร้อมลวดลาย การตกแต่ง และสีสันที่หลากหลายเพื่อให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และบุคลิกที่แตกต่างกัน
ในรุ่นทอง Sedna™ 18K และสแตนเลสสตีลขนาด 40 มม. นี้มาพร้อมหน้าปัดสีลินินเคลือบ PVD ทรงแบนที่ตกแต่งด้วยลวดลายแนวดิ่งแบบสุ่มประทับบนผิวสัมผัสโอพาลีน หน้าปัดโดดเด่นด้วยชุดเข็มนาฬิกาสีทอง Sedna™ เคลือบ PVD ตลอดจนตัวเลขโรมันและหลักชั่วโมงประดับเพชรบนฐานยึดทำจากทอง Sedna™ 18K ที่จัดวางสลับกัน
รูปลักษณ์อันบริสุทธิ์ของนาฬิกาได้รับการเติมเต็มด้วยหน้าต่างวันที่ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา และรางนาทีทรงรางรถไฟบนโซนด้านนอก
นาฬิกาที่ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer เรือนนี้มาบนสายหนังสีน้ำตาล พร้อมขับเคลื่อนด้วยกลไก OMEGA Master Co-Axial Calibre 8800 ซึ่งสามารถเชยชมได้ผ่านกระจกแซฟไฟร์ที่ทนทานต่อรอยขีดข่วนบนฝาหลังตัวเรือน
อ่านเพิ่มเติม
ปิด
รับประกัน 5 ปี
นาฬิกา OMEGA ทุกเรือนส่งมอบพร้อมการรับประกัน 5 ปีเต็ม ซึ่งครอบคลุมข้อบกพร่องที่เกิดจากผลิตภัณฑ์หรือข้อบกพร่องจากการผลิต โปรดดูคู่มือการใช้งานสำหรับข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดในการรับประกัน
ตัวเรือน
- น้ำหนักรวมของผลิตภัณฑ์ (โดยประมาณ):
67 g
- ขนาดขานาฬิกา:
19 มม.
- ความหนา:
10.4 มม.
- ตัวเรือน:
สตีล ‑ ทอง Sedna™
- ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางตัวเรือน:
40 มม.
- คุณสมบัติการกันน้ำ:
3 บาร์ (30 ม. / 100 ฟุต)
หน้าปัดและกระจกคริสตัล
- สีของหน้าปัด:
ลินิน
- คริสตัล:
กระจกแซฟไฟร์ทรงโดมทนทานต่อรอยขีดข่วนพร้อมเคลือบกันแสงสะท้อนด้านใน
สายนาฬิกา
- ประเภทสาย:
สายหนัง
- สีของสายนาฬิกา:
สีน้ำตาล
- พื้นผิวของสายนาฬิกา:
หนังจระเข้
- ด้านล่างของสายนาฬิกา:
หนังลูกวัวลายธรรมชาติ
- ประเภทหัวสาย:
หัวสายแบบหัวเข็มขัด
- วัสดุของหัวสาย:
สแตนเลสสตีล
วัสดุหลัก
-
1 / 4
ทอง SednaTM
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K goldsทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
-
2 / 4
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
-
3 / 4
เพชร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
-
4 / 4
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
ทอง SednaTM
OMEGA นำทอง SednaTM 18K หรือโรสโกลด์อัลลอยด์ของตนมาใช้งานตั้งแต่ปี 2012 โดยชื่อ Sedna ได้มาจากดาวเคราะห์น้อย Sedna เทหวัตถุที่ได้รับการระบุว่าเป็นหนึ่งในวัตถุที่มีสีแดงที่สุดในระบบสุริยะ ทอง SednaTM ไม่เพียงแต่มีคุณสมบัติดังเช่นทอง 18K goldsทุกประการเท่านั้น แต่ยังทนทานไม่ซีดจางตามกาลเวลาโดยง่าย มันมีส่วนประกอบที่โดดเด่นของทองแดงและพัลลาเดียมที่ทำให้เกิดสีสันและความเสถียร
สแตนเลสสตีล
สแตนเลสเป็นวัสดุที่พบได้บ่อยที่สุดสำหรับการผลิตเครื่องบอกเวลาสำหรับงานรูปลักษณ์ภายนอก และให้ความสวยงาม ความแข็งแรง รวมถึงราคาที่จับต้องได้ แบรนด์ OMEGA เลือกใช้สแตนเลสสตีลเกรด 316L ซึ่งมีคุณสมบัติทนทานต่อการกัดกร่อนและให้ความสุกสกาวหลังได้รับการขัดแต่ง วัสดุชนิดนี้เป็นตัวเลือกในอุดมคติสำหรับนาฬิกาที่ใช้งานในชีวิตประจำวันและในสภาพแวดล้อมที่ท้าทายอย่างการดำน้ำและการผจญภัย
เพชร
เพชรเป็นที่รู้จักกันว่าเป็นวัสดุที่มีความแข็งสูงสุดในโลก โดยได้คะแนนมาตราความแข็งแร่ของโมลส์ที่ระดับสิบ และเป็นอัญมณีชนิดเดียวที่มีคาร์บอนเป็นส่วนประกอบทั้งหมด เพชรสามารถเกิดขึ้นได้ตามธรรมชาติเมื่ออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิและได้รับแรงบีบอัดสูง ซึ่งจะเกิดขึ้นที่ระดับความลึกเฉพาะ (ลึกราว 100 ไมล์) ใต้ผิวโลก OMEGA เลือกใช้เพชร “Top Wesselton” ในการนำมาประดับนาฬิกาและเครื่องประดับของแบรนด์ ซึ่งต้องเป็นเพชรสีขาวที่มีความสะอาดตั้งแต่บริสุทธิ์ไปจนถึง VVS (Very Very Small inclusions) นอกจากจะคัดสรรกะรัตตามความเหมาะสมแล้ว วิธีการเจียระไนก็ถูกเลือกอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ได้เพชรที่มีประกายและแวววาวมากที่สุด อีกทั้ง OMEGA ยังเป็นสมาชิกขององค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Responsible Jewellery Council (RJC) ซึ่งช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่า กระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับแรงงาน วัตถุดิบ และสิ่งแวดล้อมทั้งหมดนั้นดำเนินไปตามหลักจริยธรรมและมีความเป็นธรรม
คริสตัลแซฟไฟร์
แบรนด์ OMEGA ใช้คริสตัลแซฟไฟร์สังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนสูง และเคลือบสารกันสะท้อน เพื่อให้สามารถรับชมความงามในทุกอณูของนาฬิกาได้อย่างเต็มอรรถรส ก่อนที่จะเข้ากระบวนการตัดแต่งให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ คริสตัลแซฟไฟร์จะต้องถูกผลิตภายใต้กระบวนการ Verneuil หรือกระบวนการหลอมเหลวโดยเปลวไฟ ซึ่งต้องใช้ไฟออกซีไฮโดรเจนหลอมเหลววัตถุดิบและต้องรอให้ตกผลึกทีละหยดจนเกิดเป็นกระบอกของแซฟไฟร์ โดยมีคะแนนสเกลความแข็งของโมส์ระดับ 9 (จากค่าความแข็ง 1-10) ทำให้กระจกแซฟไฟร์ที่ได้นั้นสามารถป้องกันรอยขีดข่วนและมีความแข็งแรงมาก มอบการมองเห็นได้อย่างชัดเจนตลอดเวลา
โฉมใหม่สำหรับนาฬิกาของคุณ
นาฬิกาและสายของคุณควรเข้ากันได้อย่างลงตัว แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณไม่สามารถทดลองการจับคู่ในรูปแบบต่างๆ ได้ ลองนำมาจับคู่กันดูว่าเป็นอย่างไร? คุณอาจค้นพบโฉมใหม่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวสำหรับคุณก็ได้
ค้นหาสายนาฬิกาที่ใช่ของคุณ
/
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
ข้อดี
ของนาฬิกาเรือนนี้
เบื้องหลังความสง่างามของเรือนเวลาระดับ Master Chronometer ทุกเรือนคือการทดสอบด้วยมาตรฐานสูงสุด: ด้วยการทดสอบ 8 ประเภทตลอด 10 วัน เพื่อให้มั่นใจถึงความเที่ยงตรงที่มากกว่าและคุณสมบัติต้านทานอำนาจแม่เหล็ก เราได้ยกระดับมาตรฐานของเรา คุณเองก็ทำได้เช่นกัน
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ -4/+6 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ 0/+6 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ความเที่ยงตรงที่เหนือชั้น
มีความเที่ยงตรงเป็นสองเท่าของมาตรฐานระดับโครโนมิเตอร์อื่นๆ ทั้งหมด
นาฬิกา Master Chronometer ของเราผ่านการทดสอบและผ่านการรับรองถึงสองประเภท ประเภทแรก กลไกของนาฬิกาจะได้รับการทดสอบจากสถาบัน Official Swiss Chronometer Control (COSC) โดยมีเกณฑ์ความเที่ยงตรงที่ 0/+6 วินาทีต่อวัน จากนั้นทั้งเรือนและกลไกของนาฬิกา จะต้องผ่านการทดสอบระดับ Master Chronometer ในแปดประเภท ซึ่งกำหนดโดยสถาบันมาตรวิทยาแห่งสหพันธ์สวิส (METAS) โดยมีเกณฑ์ %3/%4 วินาทีต่อวัน
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
ป้องกันแม่เหล็ก
กรรมสิทธิ์เหนือวัสดุที่ทนต่อแม่เหล็ก
ของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โทรศัพท์มือถือ หัวล็อคบนกระเป๋าถือ แล็ปท็อป การทำ MRI เตาแม่เหล็กไฟฟ้า หรือประตูอัตโนมัติ อาจสร้างสนามแม่เหล็กจนส่งผลกระทบต่อนาฬิกาและสมรรถนะได้ เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการคลาดเคลื่อนถาวรที่อาจสูงถึงหลายนาทีต่อวัน เราจึงได้คิดค้นกลไกติดตั้งด้วยวัสดุที่ต้านทานสารแม่เหล็ก เช่น บาลานซ์สปริงซิลิโคน ซึ่งสามารถทนต่อสนามแม่เหล็กความเข้มสูงสุดได้
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ผ่านการรับรองระดับ Master Chronometer
กันน้ำ
เพื่อให้มั่นใจว่านาฬิกาของเราจะยังสามารถไม่เสื่อมสลายแม้อยู่ในทะเลลึก นาฬิกาจะถูกทดสอบใต้น้ำด้วยแรงดันสูงที่ถึงเกณฑ์ที่เรารับประกันคุณสมบัติการกันน้ำ ซึ่งเป็นการทดสอบกับนาฬิกาทุกเรือนไม่ใช้แค่บางเรือนเท่านั้น และเช่นเคย ในการทดสอบคุณสมบัติการกันน้ำของนาฬิกาแต่ละเรือน เราได้เลือกที่จะดำเนินการทดสอบเกินกว่ามาตรฐานการทดสอบทั่วไป
ค้นพบเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Master Chronometer
-
ความทนทาน
นาฬิกาของเราได้รับการออกแบบด้วยมาตรฐานและการรับรองระดับสูงสุด นาฬิกาแต่ละเรือนที่ถูกกำหนดให้เป็นมาตรฐาน Master Chronometer จะต้องผ่านการทดสอบที่เข้มงวดทั้ง 8 ประเภทก่อน การทดสอบที่เราทำก็เพื่อแสดงถึงความเที่ยงตรง คุณสมบัติต้านทานสารแม่เหล็ก การสำรองพลังงาน และคุณสมบัติการกันน้ำ ทำให้เราสามารถรับประกันนาฬิกาที่ผ่านการรับรองได้อย่างครอบคลุมถึง 5 ปีเต็ม
-
การซ่อมบำรุงที่น้อยลง
ขยายระยะเวลาให้บริการ
Master Chronometer แต่ละเรือนมาพร้อมกับระบบปล่อยจักร Co-Axial ที่คิดค้นขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดเชิงกลภายในกลไกของนาฬิกา ซึ่งช่วยลดความจำเป็นในการใช้สารหล่อลื่นและการต้องการการบำรุงรักษาให้น้อ ลงอย่างมาก กลไกทั้งหมดของนาฬิกาจำเป็นต้องได้รับการบำรุงรักษาเป็นครั้งคราว แต่ OMEGA Master Chronometer จะเพิ่มระยะเวลาการใช้งานก่อนที่จะต้องเข้ารับการบำรุงรักษาที่ยาวนานกว่าน ฬิกาแบรนด์อื่นๆ
-
ต้านทานแรงกระแทก
นาฬิกาจะถูกนำมาทดสอบการทนทานต่อแรงกระแทกที่มีค่าเทียบเท่า 5,000 g (1 g เท่ากับแรงโน้มถ่วงที่พื้นผิวโลก) เพื่อให้มั่นใจว่ากลไกที่ซับซ้อนของเรานั้นมีความแข็งแกร่งเป็นพิเศษเช่นกัน ไม่ใช่แค่สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย เช่น กอล์ฟและแล่นเรือใบ
กลไก
OMEGA
คาลิเบอร์ 8800
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติพร้อมระบบปล่อยจักร Co-Axial กลไก Master Chronometer ที่ได้รับการรับรองจาก METAS สามารถต้านทานสนามแม่เหล็กได้ถึง 15,000 เกาส์ สปริงบาลานซ์แบบอิสระพร้อมบาลานซ์สปริงซิลิคอน และกลไกขึ้นลานอัตโนมัติทั้งสองทิศทาง ผิวสัมผัสเคลือบโรเดียมพร้อมลายคลื่น Geneva แบบอาหรับ
-
พลังงานสำรอง 55 ชั่วโมง
-
ระบบขึ้นลานอัตโนมัติ
-
ความถี่ 3.5 Hz
Product view from different angles
รูปแบบต่างๆ
of
Prestige
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล บน สตีล
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ เยลโลว์โกลด์ บน เยลโลว์โกลด์
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
สตีล ‑ ทอง Sedna™ บน สตีล ‑ ทอง Sedna™
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
เยลโลว์โกลด์ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm
-
ทอง Sedna™ บน สายหนัง
Co‑Axial Master Chronometer 40 mm