มหกรรมกีฬาโอลิมปิก

มหกรรมกีฬาโอลิมปิกทุกครั้งต่างมีช่วงเวลาที่น่าจดจำ แต่มีเพียงบางห้วงเวลาเท่านั้นที่โดดเด่นอย่างแท้จริง

วิลเลียม เฮนรี่ (William Henry) ผู้อำนวยการด้านเทคนิคการกีฬา ได้เขียนบันทึกไว้ว่า “เป็นไปไม่ได้เลยที่จะนึกถึงมหกรรมกีฬาโอลิมปิกที่ประสบความสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม โดยที่ไม่ให้ความชื่นชมบทบาทของ OMEGA ในการแข่งขันระดับนานาชาติที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้” ความร่วมมือได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว

ที่เบอร์ลินเกมส์ปี 1936 เจสซี่ โอเวนส์ (Jesse Owens) จากสหรัฐหรัฐอเมริกา ผู้ยิ่งใหญ่คว้าเหรียญทองได้ถึงสี่เหรียญ ในยุคที่นักกีฬาไม่มีใครผลักดันนอกจากตัวเอง OMEGA ได้จับเวลาทุกผลงานที่โดดเด่นเอาไว้

OMEGA ใช้เซลล์โฟโตอิเล็กทริกเป็นครั้งแรกในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 1948 ที่เซนต์ มอริซและที่ลอนดอน ในการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกครั้งนี้นี่เองที่เครื่องจักรเริ่มมีประสิทธิภาพด้านความแม่นยำเหนือกว่ามนุษย์

ยุคแห่งอิเล็กทรอนิกส์มาถึงแล้ว เครื่องบันทึกเวลาของ OMEGA ช่วยให้สามารถพิมพ์ผลลัพธ์ออกมาได้ ซึ่งทำให้ OMEGA ได้รับรางวัล Croix du Mérite Olympique อันทรงเกียรติ ในปัจจุบัน ผลเวลาอย่างเป็นทางการได้รับการบันทึกไว้ในระดับเกือบเศษหนี่งส่วนร้อยของวินาที

Omegascope นำเสนอแนวคิดของการบอกเวลาแบบเรียลไทม์สำหรับการถ่ายทอดกีฬาทางโทรทัศน์ ด้วยวางตัวเลขไว้ที่ด้านล่างของหน้าจอ สิ่งนี้นี่เองที่เป็นการปฏิวัติการบอกเวลาอย่างชัดเจน การแข่งขันที่ Innsbruck จึงเป็นครั้งแรกที่มีการใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เต็มรูปแบบครั้งแรกของโลก

เทคโนโลยีที่พูดถึงกันมากที่สุดในเม็กซิโกซิตี้ (Mexico City) คือทัชแพดที่ติดตั้งในสระว่ายน้ำ ซึ่งช่วยให้นักว่ายน้ำสามารถหยุดเวลาได้ด้วยมือของตนเอง ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีกรรมการจับเวลาอยู่ริมสระน้ำอีกต่อไป สิ่งนี้ยังคงเป็นหมุดหมายสำคัญในด้านการบอกเวลาอยู่เสมอมา

ในการมหกรรมกีฬาโอลิมปิดฤดูหนาวปี 1992 ที่อัลเบิร์ตวิลล์ (Albertville) นักกีฬาสปีดสเก็ตจะต้องแข่งขันภายใต้ระบบ Scan-O-Vision ของ OMEGA ซึ่งวัดเวลาแบบดิจิทัลได้ใกล้เคียงถึงระดับหนึ่งในพันของวินาที เมื่อนักสเก็ตวิ่งเข้าเส้นชัย

อุปกรณ์สำหรับบอกเวลาทางกีฬาชิ้นใหม่ที่พูดถึงกันมากที่สุดในแวนคูเวอร์ (Vancouver) คือระบบส่งสัญญาณออกตัวแบบอิเล็กทรอนิกส์ ปืนแฟลชสีแดงที่ดูอวดองค์ล้ำสมัยที่มาพร้อมกล่องกำเนิดเสียงเข้ามาแทนที่ปืนให้สัญญาณออกตัวแบบดั้งเดิม

ด้วยความละเอียดที่เพิ่มขึ้นถึงระดับ 1 µs (หนึ่งในล้านของวินาที) Quantum Timer จึงถือเป็นสิ่งที่ประกาศการมาถึงของเครื่องบอกเวลารุ่นใหม่ของ OMEGA สู่สาธารณชน มีความเบี่ยงเบนมากที่สุดเพียงหนึ่งวินาทีในสิบล้านวินาที